เมื่อพูดถึง “อาชีพไอดอล” ในวัยเด็กอาชีพนี้คงเป็นอาชีพที่เด็กหลายๆ คนใฝ่ฝันอย่างแน่นอน แต่กว่าที่จะไปถึงจุดนั้นคงไม่ง่ายเท่าไหร่นัก
อุ๊กอิ๊ก – ฐิติรัตน์ งามจิตรเจริญ เด็กสาววัย 17 ปี ปัจจุบันเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ เธอใช้เวลาหลังเลิกเรียน และในวันหยุดฝึกร้องเพลง ซ้อมเต้น ด้วยความมุ่งมั่น และพยายาม ตามหาความฝันในการเข้าร่วมรายการเพื่อค้นหาสมาชิกเกิร์ลกรุปวงใหม่ของประเทศเกาหลี “Universe Ticket” รายการเซอร์ไววัลระดับโกลบอลจาก SBS ค้นหา 8 สาวผู้ชนะมาเป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุปวงใหม่ โดยจะร่วมทำกิจกรรมโปรโมตภายใต้ F&F Entertainment เป็นระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยรายการนี้มีเหล่าเด็กฝึกหลายสัญชาติเข้าร่วมแข่งขันด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย โดยอุ๊กอิ๊กได้รับแรงบันดาลใจจากไอจีวอน ไอซ์วัน (Izone) iz*one ที่มาจากรายการเซอร์ไววัล ที่เป็นพลัง ปลุกไฟความฝัน ให้ลุกขึ้นเดินตามสิ่งที่ชื่นชอบ และเธอเชื่อว่า “ทุกคนมีจังหวะเวลาของตัวเอง” อย่ายอมแพ้ พยายามทำต่อไปเรื่อยๆ จะมีโอกาสเข้ามาในวันเวลาที่เป็นของเรา
อุ๊กอิ๊กเล่าว่า ถ้าในเรื่องเรียนเธอเป็นเด็กที่ไม่ได้อยู่หน้าห้องหรือหลังห้อง แต่จะอยู่ในระดับกลางๆ ทั้งเธอยังสนใจในการทำกิจกรรมของทางโรงเรียนจากการชักชวนของเพื่อนๆ แต่โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในบทบาทคอยสนับสนุน เป็นผู้ตามช่วยเหลือเพื่อนในกิจกรรมต่างๆ และในบางกิจกรรมที่รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง จะมีเพื่อนที่ผลักดันให้ลองทำ เธอจึงรู้สึกดีใจมากที่มีเพื่อนเชื่อมั่นและเป็นพลังบวกให้กล้าทำอะไรบางอย่างมากขึ้น
อุ๊กอิ๊กชื่นชอบการร้องเพลงและเต้นมาตั้งแต่อนุบาล แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงประถมก็ห่างหายจากการเต้นและร้องเพลงไป แต่แล้วเธอก็กลับเข้ามาสู่เส้นทางสายไอดอลอีกครั้งจากการชักชวนของเพื่อน เพื่อรวมกลุ่มลงคอร์สเรียนในโรงเรียนสอนเต้น ในตอนนั้นคิดเพียงแค่รู้สึกสนุก มีความสุขทุกครั้งที่ขยับร่างกายและยังได้ใช้ช่วงเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ในวันหยุด โดยหลังจากเรียนไปสักพัก ทางโรงเรียนสอนเต้นให้เธอลองสมัคร Audition ค่ายต่างๆ มาเรื่อยๆ จนครั้งนี้ได้แนะนำสมัครรายการ “Universe Ticket” รายการเซอร์ไววัลระดับโกลบอลจาก SBS และเธอได้ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าไปร่วมในรายการ และนี่จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความฝันนี้อีกครั้ง
ตั้งแต่วัยเด็กเป็นช่วงที่วงการ K-pop กำลังเป็นกระแสและสังคมเปิดกว้าง มีการเปิดเผยถึงเบื้องหลังของการที่กว่าจะมาเป็นสมาชิกวงไอดอลเกาหลี ทำให้ทุกคนรู้สึกใกล้ชิดและอยากเดินตามเส้นทางสายนี้ และอุ๊กอิ๊กก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีทั้งวงและศิลปินที่ชื่นชอบเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนความฝัน เธอจึงฝึกฝน และพยายามในแต่ละวันให้มากขึ้น โดยอุ๊กอิ๊กเล่าว่าเธอมีวงที่ชื่นชอบมากมายไม่ว่าจะเป็น (Izone) izone, NewJeans, aespa, Black pink, (G)I-DLE) โดยศิลปินนักร้องในดวงใจ คือ ไอจีวอน ไอซ์วัน (Izone) izone ซึ่งเป็นสมาชิกในรายการเซอร์ไววัล อย่าง Produce 48 และรายการนี้ทำให้เธออยากยืนอยู่บนเวทีและแสดงความสามารถอย่างมั่นใจ
อุ๊กอิ๊กผ่านการ Audition หลายเวที ไม่ว่าจะเป็น Idol Paradise แต่ในตอนนั้นอยู่ในสถานการณ์ Covid-19 การที่จะผ่านเกณฑ์จึงเป็นเรื่องที่ยากเพราะอยู่ในรูปแบบออนไลน์, Audition BNK รุ่น 3 และรุ่น 4 ซึ่งเธอติดรุ่น 4 แต่ก็ต้องหยุดเข้าร่วมเพราะด้วยข้อจำกัดส่วนตัวในหลายๆ เรื่อง, เคยผ่านการไปเทรนด์ที่เกาหลี 1 สัปดาห์โดยทางค่ายให้เซนต์สัญญาแต่ด้วยเกิดปัญหาหลายอย่างในขณะนั้น อุ๊กอิ๊กจึงไม่ได้ตกลงเซนต์สัญญา จนกระทั่งครั้งนี้เธอได้นำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ในครั้งก่อนมาเป็นบทเรียนในการเตรียมความพร้อม ทำให้มั่นใจ อยากที่จะทำมันอย่างเต็มที่
“ค่อนข้างกดดัน เพราะในครั้งนี้ต้องเข้าร่วมรายการเป็นครั้งแรก” และรายการเซอร์ไววัลเป็นรายการแข่งขันที่นับคะแนนให้เห็นแบบชัดเจน ถึงลำดับคะแนนของแต่ละคนโดยมีการคัดออกอย่างต่อเนื่องและคะแนนที่ได้ มาจากการโหวตของคณะกรรมการและผู้ชมทางบ้าน เธอจึงกดดันเรื่องคะแนนโหวตและคอมเมนต์ที่อาจบั่นทอนกำลังใจ จากรูปแบบการตัดวิดีโอที่เน้น Replay ย้ำให้เห็นตอนร้องและเต้นพลาด ส่วนเรื่องภาษาตอนนี้เธอลงเรียนภาษาเกาหลี เธอฟังออกแต่ยังพูดไม่ค่อยคล่อง เธอจึงจะเน้นใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
อุ๊กอิ๊กบอกว่าเด็กไทยมีความสามารถด้านนี้เยอะมาก และหลายๆ คนยังไปเติบโตต่อในวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การพัฒนาตัวเอง ความมุ่งมั่นของแต่ละคน เพราะเด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ด้วยสังคม วัฒนธรรมที่ไม่ได้สนับสนุนในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทั้งยังไม่มีนักลงทุนที่ลงทุนในเรื่องนี้ แต่ในอนาคตก็ไม่เสมอไป ถ้าหากได้รับการสนับสนุนและแรงผลักดันที่ดีประเทศไทยจะเฉิดฉายยิ่งกว่านี้แน่นอน และด้วยต่างประเทศ วงการ K-pop มีการพัฒนามานานมากแล้ว ทั่วโลกเลยรู้จักจึงมีโอกาสในการพัฒนามากกว่า แต่มีข้อเสียคือ พอมันอยู่ในระดับโลกเป็นตลาดที่ใหญ่ การที่เราจะดัง และมีชื่อเสียงต้องใช้ความพยายามที่มากขึ้นหลายเท่า และแบกรับความกดดันกับมาตรฐานที่ค่อนข้างสูง “เราทำที่ไทยอาจดีมากแล้ว แต่ถ้าไปเกาหลีมาตรฐานในด้านนี้จะสูงขึ้นอีก
“อยากให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนในอีกหลากหลายมิติ แม้คาแรคเตอร์ภายนอกของเราอาจให้ความรู้สึกที่แบ๊วๆ น่ารัก สดใส ให้ลุคดูซนๆ แต่เรายังมีมุมที่นิ่งๆ ถ้าตามบททดสอบ MBTI จะได้ INTP ซึ่งเป็นบุคลิกภาพที่ดูลึกลับซับซ้อน และตอนนี้อยากฝึกฝนการแสดงแนว Hip hop, sexy เพราะอยากให้การเต้นออกมาได้หลากหลายแนว หลากหลายคาแรคเตอร์มากขึ้น ให้คอนทราสท์กัน และที่ผ่านมาเคยเรียนแร็ป 2-3 ครั้งด้วย เวลาที่ได้ร้องแร็ปตามไอดอลทำให้รู้สึกแปลกใหม่ และสนุกมากๆ
“อยากให้ทุกคนเซอร์ไพรส์กับคาแรคเตอร์เราไปเรื่อยๆ”
หลังจากได้เข้าร่วมการ ทั้งพ่อแม่และตัวอุ๊กอิ๊กเองค่อนข้างงง เพราะไม่รู้จะตกใจช่วงเวลาไหน เนื่องจากทางรายการส่งข้อความให้มาถ่ายโปรไฟล์ ในขณะนั้นเธอยังไม่มั่นใจว่าผ่าน 100% พอหลังจากถ่ายโปรไฟล์เสร็จเธอจึงถามทีมงานอีกครั้ง และได้รับการยืนยัน เธอจึงได้รีบบอกพ่อแม่ แต่ด้วยตัวเธอนั้นเป็นลูกสาวคนเดียว คุณพ่อจึงค่อนข้างเป็นห่วงที่ต้องเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ แต่อุ๊กอิ๊กได้แสดงถึงความพยายาม มุ่งมั่น ตั้งใจในแต่ละวันที่ผ่านมาทำให้ในตอนนี้พ่อคลายกังวลและสนับสนุนอย่างเต็มที่
ตอนนี้อุ๊กอิ๊กอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นช่วงเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัยและต้องทำโปรเจกต์เกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์ UX/UI เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจที่บ้าน เธอจึงทำโปรเจกต์แบบคนเดียว แต่ก็ทำให้เธอสามารถ บริหารจัดการเวลา งานด้วยตนเองได้อย่างดี ในส่วนของวิชาเรียนเธอบอกว่า เธอพยายามตั้งใจและหากมีงานจะทำให้เสร็จภายในคาบวิชานั้นเลย และหากทำงานที่โรงเรียนไม่ทันจึงจะเรียนพิเศษและทำการบ้านให้เสร็จและส่งเหมือนกัน ในตอนนี้เธอมีทั้งคลาสเต้น ร้องเพลง และเรียนพิเศษ โดยจะแบ่งการเรียนพิเศษลงเรียนอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ ส่วนที่เหลือจะเน้นเป็นเรียนร้องเพลง เต้น โดยทุกอย่างจะเสร็จ ภายใน 20.30 น. หรือเลทกว่านั้น จากนั้นจะกลับบ้านมาซ้อมต่อเพราะต้องการทบทวนและฝึกในส่วนที่พลาดให้มั่นใจ
ต่อจากนี้ถ้าผ่านเข้าร่วมรายการ ไปต่อที่เกาหลีเป็นเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิตอีกเรื่องเลย แต่ถ้าหากไม่ได้ไปต่อ เธอจะกลับมาสานต่อสิ่งที่เรียน “ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านคงจะทำตรงนี้ต่อ หนูคิดว่าโอกาสมันจะมาเรื่อยๆ”
อุ๊กอิ๊ก : ถ้าเราตั้งใจและอยากที่จะทำมากๆ แม้จะมีปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้
ตั้งแต่ที่เธอเริ่มเดินตามเส้นทางสายนี้ ระหว่างนั้นเธอจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมกีฬาสี, งาน International day และงานอื่นๆ ที่ทางโรงเรียนจัดเพื่อโชว์ความสามารถในการเต้นและร้องเพลง ทั้งยังมีคลับที่เมื่อก่อนมีคุณครู ที่เคยเต้น Cover มาก่อน เลยได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ จากประสบการณ์ของครู
“ในตอนแรกไม่ได้มีเป้าหมายในการซ้อมเต้น คิดแค่ว่าทำเป็นงานอดิเรกเต้นกับเพื่อนๆ เพราะสนุก ดังนั้นสิ่งที่แตกต่างจากเดิม คือ ความตั้งใจ ความพยายาม และการแบ่งเวลา พอเป้าหมายเราชัดเจนว่าได้เข้าร่วมรายการเลยต้องทำตารางจัดแบ่งเวลาในแต่ละวัน และแม้ในตอนแรกจะค่อนข้างลำบากกับการโฟกัสงานต่างๆ แต่ด้วยเหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้ความฝันนี้รอช้าไม่ได้ คือเรื่องอายุในการรับสมัครเพื่อไปต่อในเส้นทางนี้ ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เมื่อเป้าหมายอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เหลือแค่ลงมือทำ เลยเริ่มจัดตารางซ้อมและส่งการบ้านเรื่องการแสดงในทุกๆ วัน” เธอบอกว่าในตอนนี้ชีวิตเธอวนลูป “กลับบ้าน ถ่ายคลิปเต้น ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น” เป็นแบบนี้ประจำ
“อย่ายอมแพ้ พยายามทำต่อไปเรื่อยๆ มันจะมีโอกาสเข้ามาในวันเวลาที่เป็นของเรา เพราะทุกคนมีจังหวะเวลาของตนเอง”
เข้าร่วมแข่งขัน Universe Ticket รายการเซอร์ไววัลระดับโกลบอลจาก SBS เพื่อค้นหาผู้ชนะจากหลากหลายประเทศทั่วโลก 8 คนมาเป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุปวงใหม่ภายใต้ F&F Entertainment
https://programs.sbs.co.kr/enter/universeticket/vote/78234/10000000511